ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวได้หรือไม่????
อาจจะใช้ได้ในผิวเด็กก่อนเข้าสู่วัยรุ่น เพราะผิวเด็กยังไม่มีการผลิตน้ำมันออกมา แต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ต่อมไขมันมีการทำงานมากขึ้น ไขมันเหล่านี้ไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวได้ จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารชะล้างช่วยเอาไขมันออกไป
และในทุกวันนี้ผิวหน้าเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ควัน แสงแดด แบคทีเรีย รวมถึงเมคอัพของเราก็เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ผิวอุดตัน และริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น การทำความสะอาดผิวหน้าสมัยนี้ด้วย ‘น้ำเปล่า’ คงจะไม่พออย่างแน่นอน
การล้างหน้าแบบใดเป็นการทำร้ายผิวหน้าที่หลายคนมักมองข้าม !!
หลายคนคิดว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วล้างออกใช้อะไรก็ได้ เอาที่ราคาถูกเอาไว้ก่อน แล้วค่อยเอาเงินไปลงทุนกับครีมบำรุงผิวดีๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว (จริงๆ อยากให้ดูที่ส่วนผสมที่เหมาะสมมากกว่าตัดสินใจที่ราคา) เพราะถึงแม้ว่าเราจะใช้ครีมบำรุงที่ดีมากแค่ไหน แต่เรากลับทำสวนทาง ทำร้ายผิวหน้าตัวเองทุกวันด้วยการล้างหน้า เช้า-เย็น ผิดวิธี ครีมแสนดีราคาแพงก็ไม่สามารถช่วยบำรุงผิวเราให้ดีมาก ได้เท่าที่ครีมตัวนั้นจะทำได้ ทำให้เราต้องทั้งเสียเงินเสียเวลา ทั้งที่ผ่านมาแล้ว ยังรวมไปถึงในอนาคตด้วย ที่เราจะต้องมาหาวิธี ฟื้นฟูผิวที่เสียหายทีหลัง บวกกับอายุที่เพิ่มขึ้น การฟื้นฟูซ่อมแซมผิวก็ทำได้ยากขึ้น นั่นก็หมายถึงผิวที่เสียหายไปแล้ว อาจจะไม่สามารถฟื้นฟูให้ดีมากขึ้นได้
NGAM BOTANICA : Avocado Creamy Cleanser (Vegan)
แจนขอสรุป ทริคของการล้างหน้าที่เหมาะสมให้เพื่อนๆ เข้าใจง่ายๆ แบบนี้นะคะ
- เวลาที่เหมาะสมในการล้างหน้า ไม่ควรเกิน 60 วินาที
- การล้างหน้า ‘บ่อยเกินไป’ ไม่เกิดผลดีต่อผิว
การล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้ง เป็นการรบกวนผิว ทำร้ายเกราะป้องกันผิว ชะล้างเอาไขมันธรรมชาติที่เคลือบปกป้องผิวออกมากเกินไป ทำให้ผิวแห้ง เกิดอาการระคายเคือง และเมื่อน้ำมันธรรมชาติบนผิวหมดไป ผิวก็จะมีการผลิตน้ำมันออกมาชดเชยมากกว่าเดิม นั่นเป็นที่มาว่า ทำไมคนหน้ามัน ยิ่งล้างหน้าบ่อย หน้ายิ่งมันกว่าเดิม
*** แจนเคยฟังคุณหมอท่านหนึ่งผ่านทางช่องยูทูป แนะนำว่าเราสามารถล้างหน้ามากกว่า 2 ครั้งได้ แต่ต้องล้างด้วยน้ำเปล่า เนื่องจากน้ำไม่เข้ากับน้ำมัน ยังไงก็จะไม่ไปชะล้างน้ำมันที่เคลือบผิวหน้า แต่ส่วนตัวแจนแนะนำว่าให้ล้างหน้าเช้า-เย็นด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า และถ้าเพื่อนๆ จะใช้วิธีนี้ ให้ใช้ในวันที่เราไม่แต่งหน้าค่ะ อาจจะเป็นการล้างฝุ่นละออง คราบครีม และกันแดดเก่าออกไป ก่อนทาครีมบำรุง และกันแดดเติมกลับเข้าไปใหม่
- ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของเม็ดสครับขัดผิว ควรใช้สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง
มากกว่านี้ จะเป็นการรบกวนผิวมากเกินไป อาจมีการระคายเคือง และไปกระตุ้นให้ผิวที่เป็นสิวอยู่แล้ว เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวเอาไว้ก่อน
เพื่อนๆ คงเคยเห็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าบางแบรนด์ที่มีหลายสูตร เหมาะกับสภาพผิวแบบต่างๆ แล้วงงว่าทำไมผลิตภัณฑ์ล้างหน้าถึงมีได้หลายสูตรขนาดนี้ และบางครั้งก็พบว่าผิวของเราเหมาะมากกว่า 1 สูตรที่เค้ามี และแจนเป็นคนนึงที่เคยยืนงงในดง Cleanser ค่ะ
ถ้าเอาแบบสูตรส่วนตัวของแจนเลย จะเลือกใช้ที่อ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิวเอาไว้ก่อน ที่สำคัญต้องไม่ทำให้ผิวแห้งเพราะกลัวริ้วรอยมาเยือนเร็วมากๆ ค่ะ , ดูค่า pH Balance ที่ดีต่อผิวหน้า, ไม่มีสารเคมีอันตรายต่อผิว และไม่มีสารควบคุมความมัน
ในผิวที่เป็นสิวง่าย ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย P.Acnes ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวก็น่าสนใจค่ะ แต่ก็มักจะยากที่จะ มีคุณสมบัตินี้ร่วมในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ในกรณีนี้แจนจะเลือกผลิตภัณ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนเอาไว้ก่อน และเลือกใช้โทนเนอร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย P.Acnes เข้าไปเสริมแทนค่ะ
- ล้างเครื่องสำอางค์ และ ครีมกันแดดก่อนล้างหน้าด้วย Makeup Remover
การใช้ Cleanser สำหรับล้างหน้ามาล้างเครื่องสำอางค์ หรือ กันแดด ไม่สามารถทำความสะอาดผิวได้หมดจด ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน เราจำเป็นต้องใช้ Makeup Remover เข้ามาช่วยทำความสะอาดผิวหน้า เราก่อนที่จะล้างหน้าค่ะ
ถ้าเพื่อนๆ มองหา Makeup Remover ที่เป็นธรรมชาติ แนะนำให้เลือกใช้เป็นสูตรน้ำมันค่ะ เพราะในเครื่องสำอางค์ และกันแดดจะมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ด้วย ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันจะเข้าไปช่วยละลายคราบน้ำมันเหล่านั้นออกไป และยังเป็นสูตรที่เป็นธรรมชาติมากกว่าสูตรน้ำ ที่จำเป็นต้องมีสารบางตัวเข้ามาช่วยล้างคราบไขมันอยู่ในส่วนผสม และแน่นอนในคนที่เป็นสิว การใช้สูตรน้ำมันเพื่อนๆ ต้องเช็คส่วนผสมก่อนใช้นะคะ น้ำมันบางตัวไม่มีค่าอุดตันรูขุมขน บางตัวก็มีค่ะ
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ผลิตมาเพื่อผิวหน้าโดยเฉพาะ
ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ หรือ ล้างมือมาล้างหน้า เพราะจะชะล้างเอาไขมันที่ช่วยปกป้องผิวของเราออกมากเกินไป และอาจจะมีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือสารเคมีที่รุนแรงต่อผิวหน้าของเราผสมอยู่ค่ะ
- ไม่ขัดถูผิวหน้า หรือซับหน้ารุนแรง
เพราะเป็นการรบกวนผิว ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย เกิดการระคายเคือง และยังเป็นการกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้
- ระวังเรื่องอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ล้างหน้า
ความร้อนจะไปทำลายความชุ่มชื้น และน้ำมันที่จำเป็นต่อการปกป้องผิว ทำให้ผิวแห้งตึง ระคายเคืองง่าย เกิดริ้วรอยในระยะยาว แต่หากใช้น้ำเย็นเกินไป ก็จะทำให้ล้างคราบน้ำมันออกได้ยาก ดังนั้นควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติจะดีที่สุดค่ะ
6 ขั้นตอนการล้างหน้าทั่วไป
Step 1 : ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสผิวหน้าทุกครั้ง
Step 2 : ล้างเครื่องสำอางค์บนใบหน้า
Step 3 : ล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่า เพื่อให้ผิวสะอาด และมีความชื่นบนในหน้า
Step 4 : ใช้ Cleanser นวดบนผิวหน้าเบาๆ 30 วินาที – 1 นาที
Step 5 : ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Step 6 : ซับหน้าเบาๆ แล้วรีบทาครีมบำรุงผิวทันที เพื่อเข้าไปช่วยล็อคความชุ่มชื่นในผิวไม่ให้ระเหยออก และเพิ่มความชุ่มชื่นเข้าไปทดแทนที่เราได้ล้างออกไป
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนที่ สาวๆ OuiOui แนะนำ
NGAM BOTANICA : Avocado Creamy Cleanser (Vegan)
How to Use : Avocado Creamy Cleanser
เป็นสบู่ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนจากธรรมชาติ 100% มีส่วนผสมของน้ำมันออร์แกนิคอโวคาโด ช่วยล้างคราบน้ำมันที่เกาะบนผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า
อ่านจบแล้ว มีใครเพิ่งรู้ตัวว่าล้างหน้าผิดวิธี กันอยู่บ้างรึเปล่าค่ะ??
และอย่าลืมว่าผิวสวยๆ เกิดจากการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ ด้วย พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมรุนแรงที่ทำร้ายผิว เน้นการดูแลสุขภาพผิวจากภายใน ดูแลอารมณ์ให้ไม่เครียด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ
แจนรับรองเลยค่ะ ถ้าผิวเพื่อนๆ ไม่ดีเพราะการล้างหน้าที่ไม่ถูกต้อง เพียงแค่ปรับวิธีการล้างหน้าใหม่ ผิวเพื่อนๆ ก็จะสดใสขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะ
อาทิตย์หน้าแจนจะมาต่อด้วยทิศทางการล้างหน้า และการทาครีม ว่าควรจะทาไปในทิศทางเดียวกัน หรือต่างกันแบบไหนถึงจะถูกจริตกับผิว เพื่อผิวที่จะสวยขึ้นของเรากันค่ะ
ด้วยรัก
แจน และทีม OuiOui
cradit: