ผู้หญิง (และผู้ชาย) มากมาย มองหาผลิตภัณฑ์ ที่แน่นอนว่าต้องทั้งดีกับผู้ใช้ และดีกับโลกของเราไปพร้อมๆกัน
วันนี้ Oui Oui อยากมาชวนเพื่อนๆทำความรู้จักกับ story ของแบรนด์ไทยแบรนด์นึง ที่ eco friendly และ เป็น natural lip balm เค้าบอกว่าเค้าบำรุงฝีปากของสาวๆแล้ว ยังดูแลโลก ชุมชน และเกษตรกรไปพร้อมๆกัน
แบรนด์นี้ ชื่อว่า Ira หรือ ไอรา ภาษาสันสกฤตว่า “โลกหรือผู้ดูแลโลก” ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ ที่ผสมผสานวัตถุดิบจากธรรมชาติ และความตั้งใจที่จะดูแลสิ่งแวดล้อม
ทีม Oui Oui ใช้ลิปบาล์มของ Ira มาหลายปี เริ่มตั้งแต่กลิ่นข้าวเหนียวมะม่วง ที่หอมหวาน ใช้แล้วปากนุ่มจริงๆ ได้เห็นการเติบโตของแบรนด์ เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆหลากหลาย แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือ packaging ที่รักโลก และ ลิปมันคุณภาพดี เห็นความตั้งใจทำของเจ้าของแบรนด์เลยค่ะ
วันนี้เราเลยมานั่งคุยกับคุณเมย์ เจ้าของแบรนด์ Ira ถึงความเป็นมา ข้อคิดต่างๆที่ได้จากการทำแบรนด์ ลองอ่านดูนะคะ
เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆที่อยากทำแบรนด์ของตัวเองค่ะ
บทสัมภาษณ์น่าสนใจมากๆ เรื่องราวเป็นยังไง มาฟังกันเลยค่ะ
1. Story ของ Ira เป็นมาอย่างไร เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ ธนิดา ดลธัญพรภคภพ ตอนนี้อายุ 29 ปีค่ะ
ต้องบอกว่าตอนเริ่มแรกการทำ Ira นั้นย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วในปี 2016 เมื่อเมย์เรียนจบใหม่ๆค่ะ
ในตอนแรกนั้นไม่ได้ต้องการมาทำธุรกิจค่ะ แต่อยากเรียนต่อเพื่อจะเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
ดังนั้นเมื่อเรียนจบมาใหม่จึงทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์ดร.ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และในเวลาเดียวกันนั้นหุ้นส่วนเมย์อีกคนก็ได้โยนความคิดมาว่าอยากลองขายซื้อสินค้ามาขายไหม เพราะเขามีญาติที่
ผลิตพวกน้ำมันนวด สเปรย์ตะไคร้กันยุง และสบู่ผลไม้ที่ตอนนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวจีน
จากไอเดียตอนนั้นจึงทำให้เราลองสั่งสินค้ามาจำหน่ายในร้านอาหารจีนที่พัทยาก่อน
ซึ่งกระแสตอบรับไปได้ด้วยดีมาก โดยสินค้าที่ขายดีจะเป็นสบู่ผลไม้ ไม่ใช่ลิปบาล์มธรรมชาติ
แต่ในเวลานั้นเมย์กลับมองเห็นโอกาสในตัวลิปบาล์มธรรมชาติและคิดว่าเราจะทำมันให้ดีและโตได้
โดยแรงบันดาลใจในตอนนั้นมีเพียงอย่างเดียวเลยคือการต้องการทำลิปบาล์มธรรมชาติที่ปลอดภัยไร้สารเคมี
ในราคาที่เข้าถึงได้เพราะเราอยากให้กลุ่มคนที่หลากหลายเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้แต่สารเคมีอย่
างเดียว แต่เนื่องด้วยราคาสินค้าธรรมชาติเมื่อ 6 ปีก่อนมีราคาที่สูงมากๆ และจะมีเพียงลูกค้าบางกลุ่มที่เข้าถึงได้
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มทำลิปบาล์มแบบตลับรุ่นแรกออกมา โดยมีกลิ่นข้าวเหนียวมะม่วงเป็นกลิ่น signature
ของเราค่ะ
แต่เมื่อจำหน่ายไปสักพักลูกค้าเริ่มที่จะอยากได้แบบแท่งเพราะไม่ต้องการใช้มือสัมผัส
และนี่คือจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งที่เมย์ได้ใช้ความชอบและความใส่ใจส่วนตัวตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยที่ชอบในการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและโลก เราจึงเริ่มหาแท่งต่างๆ โดยเราไม่ได้มองว่าเราจะใช้แท่งพลาสติกเลย
เพราะเราอยากได้แท่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านั้น จึงทำการค้นหาไปเรื่อยๆและได้พบกับแท่งกระดาษ eco
ที่สามารถย่อยสลายได้ ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากว่าเราสามารถผสานความรักษ์โลกควบคู่ไปกับการทำธุรกิจได้
แม้ว่าช่วงแรกที่ออกสินค้าตัวนี้จะต้องฝ่าฝันคำวิจารณ์ในเรื่องการใช้ตัวแท่งที่มีความยุ่งยาก แต่เราก็ผ่านมาได้
จนปัจจุบันลูกค้าไม่ได้รู้สึกถึงความยุ่งยากนั้นแล้วแต่กลับชอบและชื่นชมไปกับแนวคิดนี้และขยายวงกว้างความรักษ์
โลกออกไปได้มากขึ้น
ปัจจุบันนี้ ไอราจึงได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากออกไปหลากหลายมากขึ้นทั้งลิปบาล์มบำรุงไม่มีสี
ทินต์ลิปบาล์ม ลิปกลอสและลิปสครับรวมแล้ว 18 SKUs
นอกจากความใส่ใจสิ่งแวดล้อมแล้ว
ในปีที่ผ่านมาตัวเมย์เองได้เรียนรู้หลายอย่างและเห็นภาพผลกระทบมากมายจากสถานการณ์โควิด
ทำให้เราเพิ่มจุดยืนอีกจุดที่นอกจากการใช้ส่วนผสมธรรมชาติที่ดีต่อผู้คน
เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ถนอมสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุดที่เราทำได้
เรายังอยากสนับสนุนเกษตรกรไทยและผู้ปลูกในประเทศของเราให้ได้รับการอุ้มชู
เห็นคุณค่าและทำให้คนไทยชื่นชมในส่วนผสมในประเทศที่ดีงามไม่แพ้กับต่างประเทศเลย
2. ช่วงเริ่มต้น เจอปัญหาอะไรบ้าง แก้ปัญหาอย่างไร
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้อก่อนหน้าเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เราเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่เป็นแท่งกระดาษ
eco โดยใช้การดันขึ้นจากฐาน ไม่ใช่การหมุนเหมือนแท่งพลาสติก
ประจวบกับเราเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่นำร่องการใช้แท่งแบบนี้
ทำให้ลูกค้าหลายท่านไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของเราและมีคอมเมนต์มากมายถึงการใช้งานที่ยากลำบากนั้น
ทำให้เราได้คอมเมนต์ต่างๆที่ลดทอนกำลังใจไปบ้างแต่ก็ยังคงมุ่งหน้าต่อ
มากไปกว่านั้นการที่เราเป็นแบรนด์เล็กๆการที่โรงงานจะยอมผลิตให้นั้นก็เป็นเรื่องที่ยาก
จำได้ว่าวันที่ต้องผลิตวันแรกกับโรงงานที่ใหญ่ขึ้นนั้นเราต้องขับรถไปเอาของเองจากรุงเทพมหานครและวิ่งเอาวัตถุดิ
บกลับมาที่โรงงานที่ชลบุรีเพื่อให้ผู้จัดการโรงงานผลิตเร่งผลิตให้เพราะใกล้จะถึงกำหนดส่งของที่เปิดจองไว้แล้ว
และต้องยืนขอร้องอยู่ที่หน้าโรงงานเป็นระยะเวลาซักระยะนึงเลยทีเดียว
แต่ถ้าให้พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่อาจลืมได้เลยคิดกลับไปทีไรก็ยังรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกมากๆก็คือ
เหตุการณ์ที่เราต้องทำการเคลมสินค้ากว่า 15,000 แท่งให้กับลูกค้าที่สั่งสินค้าไปเนื่องจากเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า
crystallization ทำให้หน้าลิปไม่เรียบเป็นเหมือนเกล็ดคริสตัล
ซึ่งไม่มีผลต่อการใช้งานแต่มันก็ไม่ควรเกิดขึ้นทำให้เมย์ตัดสินใจที่จะสั่งผลิตใหม่และส่งไปให้ลูกค้าทั้งหมดอีกครั้งซึ่
งก็มีความเสียหายกว่า 7 หลัก
แต่เมย์ก็ไม่เคยเสียใจเลยที่ทำแบบนั้นเพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้จะทำธุรกิจแค่ให้รอดในวันนี้แต่เราอยากให้ไอราอยู่อย่าง
ยั่งยืนและเป็นที่รัก เป็นความหวังดีกับลูกค้าจริงๆ เรื่องนี้จึงเหมือนการขาดทุนคือกำไร
กำไรที่เราได้กลับมาคือข้อความล้นหลามที่ลูกค้าส่งมาขอบคุณและมั่นใจว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ไอราจะไม่ทิ้งลูกค้าหรือจะไม่ซื่อสัตย์กับพวกเขาแน่นอน เพราะเรายังยึดมั่นในการทำให้ลูกค้ามีความสุข
ได้ใช้สินค้าที่ดี และจะยังคงเข้าอกเข้าใจเขาต่อไปค่ะ
3. สินค้ามีอะไรบ้าง ได้แรงบันดาลใจจากอะไรคะ
ปัจจุบันนี้ไอราจึงได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากออกไปหลากหลายมากขึ้นทั้งลิปบาล์มบำรุงไม่มีสี ทินต์ลิปบาล์ม
ลิปกลอสและลิปสครับรวมแล้ว 18 SKUs
โดยแรงบันดาลใจทุกผลิตภัณฑ์ไม่เคยเกิดขึ้นจากเมย์เลยสักครั้ง แต่คนที่คิด
คนที่ทำให้มันเกิดขึ้นคือลูกค้าทุกคนของเราค่ะ เรารับฟังจากสิ่งที่ลูกค้าบอก
ลูกค้าอยากให้เป็นหรือจากปัญหาที่ลูกค้าประสบพบเจอค่ะ
หากให้ยกตัวอย่าง เมย์อยากพูดถึงสินค้ารุ่น Vegan Tinted Lip Balm
ที่เป็นที่ครองใจสาวๆแพ้ง่ายมานานหลายปี รุ่นนี้ก็เกิดจากลูกค้าเป็นคนบอกเราเช่นกันค่ะ
ลูกค้าหลายท่านใช้ลิปมาเยอะมากล้วนเป็นลิปออแกนิคหรือธรรมชาติแต่เขาเหล่านั้นก็ยังแพ้อยู่
พอมาซื้อลิปเรารุ่นนึงไปก็ยังแพ้อยู่
มันจึงเกิดการพูดคุยกันมากขึ้นเพราะเราอยากให้เขามีความสุขกับการใช้ลิปอีกครั้งและไม่อยากให้เจอปัญหาการแพ้อีก คำถามเลยนำไปสู่การถามถึงแบรนด์ที่เคยใช้มา
ลงลึกไปถึงการดูส่วนผสมต่างๆในแต่ละแบรนด์ที่เคยใช้รวมถึงของไอราเองด้วย
ทำให้เราเห็นว่าส่วนผสมที่มีเหมือนกันคือตัวขี้ผึ้งนั่นเอง ซึ่งสาวไทยแพ้เป็นจำนวนมากค่ะคาดว่าจะแพ้ตัวขนผึ้ง
หลังจากนั้นเราทำการทดลองพัฒนาสูตรโดยตัดตัวขี้ผึ้งออกและให้หลายๆท่านลองใช้ ปรากฏว่าไม่มีอาการแพ้
และพวกเขาสามารถใช้ได้ และสินค้ารุ่นนี้จึงกลายเป็นที่นิยมมากๆเพราะสาวแพ้ง่ายใช้ได้
ปราศจากขี้ผึ้งและสารเคมีต่างๆ
4. การทำธุรกิจและการตลาด ก่อนและหลังโควิด ของ Ira แตกต่างกันอย่างไร
หากเปรียบเทียบก่อนและหลังโควิดต้องยอมรับเลยค่ะว่าการทำธุรกิจนั้นยากมากขึ้นกว่าเดิม
เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเรามีเพียงผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากเมื่อคนใส่หน้ากากอนามัยและไม่สามารถเดินทางไปไหนได้จึงกระทบกับเราโดยตรง
นอกจากนั้นยังมีเรื่องกฎเกณฑ์การทำการตลาดหรือโฆษณาในเฟสบุ๊คที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างมากด้วยทำให้ต้องมีการปรับตัวห
ลายอย่าง โดยเรามีการไปในแพลตฟอร์มอื่นมากขึ้นและไม่พึ่งพาแค่แพลตฟอร์มใดฟอร์มหนึ่ง
5. มองอนาคตของ Ira ไว้เป็นอย่างไร และมีกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างไรหลังจากนี้คะ
ในอนาคตเรามองว่า Ira จะเป็นแบรนด์ skincare & personal care
ที่ถ้าใครต้องการจะรักษ์โลกและช่วยเหลือชุมชนไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์เราอยากให้ Ira เป็น Top of Mind ค่ะ
นอกจากนั้นเราอยากให้แบรนด์ Ira เป็นแบรนด์ที่โปร่งใส (Transparent)
มากที่สุดแบรนด์นึงตั้งแต่การคัดสรรส่วนผสม การตั้งราคา การได้รู้ที่ไปที่มาว่าเงินส่วนนี้
ต้นทุนส่วนนั้นใครได้ผลประโยชน์บ้าง
เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่ทุกคนวางใจไว้ใจและรู้สึกได้จริงๆว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง
และไม่ได้ต้องการเติบโตไปเพียงคนเดียว
นอกจากนั้นเราก็คาดหวังว่าจะสามารถส่งออกไปขายในประเทศต่างๆด้วยในเร็วๆนี้
6. มีแนวทางอะไรอยากแนะนำ หรือฝากถึงคนที่กำลังอยากเริ่มทำธุรกิจ หรือเพื่อนนักธุรกิจคนอื่นค่ะ
จริงๆเมย์ก็เพิ่งทำธุรกิจได้ไม่นานอาจจะไม่สามารถแนะนำอะไรได้มากนักค่ะ
แต่ถ้าจะให้ฝากอะไรไว้ก็คิดว่า
การทำธุรกิจในโลกปัจจุบันนี้ความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญมากๆและผู้บริโภครับรู้ได้ว่าเราแค่พูดหรือเราทำแบบนั้นจริง
ๆ ถ้าเราสามารถเปลี่ยนจากลูกค้าทั่วไปให้เป็น Brand Fan ได้คือเรื่องที่ดีงามที่สุดเพราะลูกค้าจะเป็นเหมือน
influencer ให้กับเราเองค่ะ ที่สำคัญอีกอย่างนึงคือการมองหา pain point
ของลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราต่อให้ได้ตามความต้องการของพวกเขาจริงๆ
มิเช่นนั้นการพัฒนาสินค้าใหม่ของเราเรื่อยๆจะไม่มีความหมายเลยเพราะเราจะหาช่องวางในตลาดที่จะเอาตัวเราไปเสียบไม่เจอ คุยกับลูกค้าเยอะๆ ฟังเยอะๆแล้วเราจะเห็นทางออกที่เราจะเดินไปเองค่ะ
ติดตาม / สั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์ของ Ira ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/IraThailand
Instagram: @Ira_thailand
Website: www.iranatural.com